วิธีใช้สีพ่นอลูมิเนียมที่คุณก็ทำด้วยตัวเองได้

สีพ่นอลูมิเนียม

ไหนใครไม่อยากเสียเงินไปร้านทำสีอลูมิเนียมบ้าง ค่าใช้จ่ายอย่างน้อย ๆ ไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท บางที่อาจถูกกว่านั้น แต่พอลองคิดดูแล้วก็ยังแพงอยู่ดี งั้นเปลี่ยนใหม่มาลองซื้อสีพ่นอลูมิเนียมเองกันดีกว่า แต่เมื่อซื้อมาแล้วมีวิธีการยังไงบ้างนั้นไปดู 

วิธีใช้สีพ่นอลูมิเนียมที่คุณก็ทำได้ด้วยตนเอง 

หากซื้อสีอลูมิเนียมมาแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะใช้ยังไง ขอแนะนำให้ทำตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้ 

เตรียมสภาพพื้นผิว  

(เพื่อความคงทน ไม่ลอก ไม่ร่อน) โดยวิธีเตรียมแบ่งออกเป็น 2 ประเภท  

1. ไม่เคยพ่นสีมาก่อน  

แนะนำให้ทำความสะอาดคราบไขมัน คราบฝุ่น และคราบสกปรกต่าง ๆ อาจใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาล้างจาน ขัดถูและล้างด้วยน้ำสะอาด จากนั้นให้ใช้กระดาษทรายเบอร์ละเอียด 320 – 600 เพื่อปรับให้พื้นที่เรียบอีกครั้ง สำหรับวิธีการพ่นไม่แนะนำให้พ่นมากกว่า 2 เที่ยว เพราะจะทำให้สีหนาและไม่สวยงาม 

2. เคยพ่นสีมาแล้ว 

มีขั้นตอนการทำแบ่งออกเป็น 2 วิธี ดังนี้ 

  • ต้องการพ่นใหม่ทั้งหมด แนะนำให้ทำความสะอาดและใช้กระดาษทรายเบอร์ 320 – 600 ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน แต่ไม่ควรถูกระดาษแรงหรือลึกเกินไป 
  • ซ่อมแซมบางส่วน แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยผงซักฟอกหรือสบู่ จากนั้นให้ดูว่าขนาดของแผลที่ต้องการซ่อมแซมลึกแค่ไหน หากไม่ลึกจนเกินไปแนะนำให้ใช้กระดาษทรายเบอร์ 320 และต่อด้วยเบอร์ 600 แต่หากลึกควรใช้เบอร์ 150 320 และต่อด้วย 600 ตามลำดับ จากนั้นค่อยพ่นสีรองพื้นประมาณ 2 เที่ยว  และใช้กระดาษทรายเบอร์ 1,000 หรือ 1,500 ลูบให้ทั่วชิ้นงานก่อนลงสีจริงและเคลือบแลคเกอร์ 

พ่นสีพ่นอลูมิเนียมจริง 

โดยทั่วไปจะพ่นเพียงแค่ 2 – 3 เที่ยว สีที่แนะนำให้ใช้ควรเป็นสีพื้น 2K เพราะจะแห้งเร็วกว่า โดยการทาแต่ละรอบให้เว้นระยะประมาณ 10 นาที 

พ่นแลคเกอร์ 

ขั้นตอนนี้จะทำหลังจากพ่นสีจริงเสร็จและทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที โดยจะพ่นเคลือบ 2 – 3 เที่ยว และทิ้งระยะห่าง 10 นาทีเหมือนตอนพ่นสีจริง 

การขัดเคลือบสี 

เป็นขั้นตอนการจบงานเพื่อให้งานออกมาเงาสวย ซึ่งขั้นตอนนี้จะทำหรือไม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับความเงาที่ต้องการ หากพบว่าหลังจากเคลือบแลคเกอร์ไปประมาณ 3 – 7 วันและแห้งดีแล้วความเงาพอเหมาะก็ไม่จำเป็นต้องขัด 

เห็นหรือไม่ว่าวิธีใช้สีพ่นอลูมิเนียมนั้นง่ายมากและสามารถทำได้ด้วยตนเอง เพียงแค่เริ่มต้นจากการเตรียมพื้นผิวและอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้พร้อม แค่นี้ก็สามารถเริ่มต้นทำได้เลย แต่อย่างไรก็ตามก่อนจะเลือกใช้สีอะไรหรือประเภทไหน แนะนำว่าควรดูที่คุณภาพของสีนั้น ๆ ด้วยว่าได้รับมาตรฐานมอก. หรือไม่ ใช้แล้วคงทนแค่ไหน รวมถึงราคาที่ต้องจ่ายคุ้มค่าหรือไม่ จะได้ไม่เสียใจภายหลัง